ตั้งเป้าหมายผิด อาจอยู่ไม่รอดในตลาด Forex!?

ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นทำอะไร สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ “ตั้งเป้าหมาย” ซึ่งสำหรับมือใหม่ในตลาด Forex หลายคน มักจะตั้งเป้าหมายไปที่การทำกำไร ค้นหาวิธีการที่จะทำกำไรจากการเทรด แต่นั่นใช่เป้าหมายแรกที่ดีและถูกต้องแล้วจริงหรือ?

สิ่งที่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญและตั้งเป็นเป้าหมายแรก คือ การอยู่ให้รอดในตลาดก่อน ดังคำกล่าวของพ่อมดทางการเงิน จอร์จ โซรอส

อยู่ให้รอดก่อน แล้วค่อยทำกำไรทีหลัง

Survive first and make money afterwards.
— George Soros —

โดยเฉพาะในปีแรกของการลงทุน ควรเน้นไปที่การเรียนรู้ฝึกฝน ค้นหาสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองก่อนที่จะคิดทำกำไรจริงจัง หรือหวังรวยเร็วอย่างคำโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ จำไว้ว่าไม่มีทางลัดสำหรับคนที่อย่างประสบความสำเร็จ อยากอยู่ในวงการไหนความรู้ความเชี่ยวชาญต้องแน่น ถึงจะอยู่ได้ยาว ซึ่งวันนี้เราก็ไม่ได้มาเตือนเพียงอย่างเดียว ยังมีวิธีแนะนำสำหรับเอาตัวรอดในตลาด Forex มาฝากกันด้วย

วิธีเอาตัวรอดในตลาด Forex

  • มองอย่างเป็นกลาง
    ให้มองการเทรด Forex เหมือนกับการลงทุนอื่นๆ ไม่มีการทางลัดรวยเร็วใดๆ มีได้ก็มีเสีย ความรู้จะช่วยให้คุณมองสถานการณ์ตามเป็นจริง และอยู่รอดได้ในระยะยาว
  • อย่าใช้อารมณ์ร่วมกับการเทรด
    จำทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง อย่าเชื่อคำพูดชวนเชื่อของใครง่ายๆ ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป ดูไปตามสถานการ์ สภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเทรดได้เงินเร็วภายในไม่กี่วิ ทุกคนคงจะรวยกันหมดแล้ว
  • ฝึกเทรดในบัญชีเดโม่ก่อนทุกครั้ง
    อย่าเทรดตามใคร โดยที่คุณยังไม่ได้ลองฝึกเทรดผ่านบัญชีเดโม่ หากยังไม่เข้าใจอย่างดีพอ ยังตั้งค่าเองไม่เป็น อย่างเอาวิธีนั้นๆ ไปใช้เทรดบัญชีจริง ระวังจะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
  • เพิ่มความรู้อยู่เสมอ
    แม้จะเริ่มเข้าใจหรือเทรดเป็นแล้ว ก็อย่าหยุดที่จะหาความรู้ใหม่ๆ ยังมีอะไรอีกมากให้คุณได้เรียนรู้ในตลาดแห่งนี้ และความรู้เหล่านี้จะช่วยการเทรดของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อย
  • รู้จักบริหารจัดการอย่างมีระบบ
    ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรเงินลงทุน การบริหาความเสี่ยง รวมถึงการวางแผนการลงทุน
  • ไม่ต้องกำไรมาก แต่ต่อเนื่องย่อมดีกว่า
    อย่างที่เขาพูดกันว่าความโลภไม่เข้าใครออกใคร เพราะฉะนั้นคุณจะต้องจัดการบริหารความโลภของคุณได้ดี เทรดได้กำไรทีละน้อย แต่ได้นานๆ ย่อมดีกว่าขาดทุนอยู่แล้ว ทำทุกขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วกำไรจะมากขึ้นเอง
  • เหนื่อยก็พัก แต่อย่าท้อ
    ไม่ไหวอย่าฝืน อย่างเพิ่งคิดจะเอาคืน อยากเอาชนะตลาดให้ได้ในทันที หยุดพักให้สบายใจก่อน แล้วค่อยกลับมาสู้กันใหม่

IB Forex คือ? ทำหน้าที่อะไร

คืออะไร

IB ย่อมาจาก Introducing Broker ซึ่งก็คือ ผู้แนะนำโบรกเกอร์

ทำหน้าที่อะไร

มีหน้าที่แนะนำและชักชวนคนให้มาเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ ภายใต้ลิงก์แนะนำของตนเอง ถ้าให้เปรียบกับอาชีพอื่น คงจะเปรียบได้กับนายหน้าขายประกันนั่นเอง

แต่เดี๋ยวก่อนสำหรับ IB Forex แล้ว ไม่ได้เพียงแต่เข้าไปแนะนำชักชวนด้วยการพูดคุยแบบทั่วๆ ไปแค่นั้น วิธีการที่ IB Forex ใช้จะเป็นในรูปแบบของการให้ความรู้ เปิดอบรม สอนเทรด สอนเทคนิคต่างๆ ที่เรียกได้ว่าเทรดเดอร์ได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะหากเทรดกับโบรกเกอร์เองโดยตรง ก็จะไม่ได้รับในส่วนนี้

ได้อะไรจากการแนะนำ

เมื่อ IB Forex ชักชวนคนมาเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ได้ ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากรายได้จาก Spread ที่เทรดเดอร์ทำการซื้อขาย อาจได้รับตั้งแต่ 20% – 50% ขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์, อาจจะได้รับเป็นจำนวน Lot หรืออาจจะได้รับเป็นค่าส่วนลดต่างๆ แทน

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เหรียญมีสองด้านเสมอ IB Forex ก็เช่นกัน เราต้องเลือกสรร IB Forex ที่ดีมาช่วยแนะนำเรา เพราะหากเจอคนไม่ดีแล้ว เขาอาจจะแนะนำให้เราเปิดออเดอร์ซื้อขายที่มากเกินจำเป็น ไม่เหมาะสมกับตัวเรา และจะกลายเป็นผลเสียไปในที่สุด

ตลาด Forex เปิด-ปิด กี่โมง (เวลาไทย)

หลายคนคงทราบกันแล้วว่า ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ (หยุดเสาร์-อาทิตย์) แต่รู้หรือไม่ว่าคำว่า 24 ชั่วโมงนั้น ไม่ได้หมายถึงทุกสกุลเงินเปิดปิดพร้อมกัน

แต่ละสกุลเงินมีเวลาเปิดปิดเป็นของตัวเอง บางสกุลก็มีเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้เมื่อรวมเวลาเปิดปิดของทุกสกุลเงินในทุกประเทศที่เข้าร่วมแล้ว กลายเป็นว่านักเทรดสามารถเลือกเทรดคู่เงินที่สนใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง นั่นเอง

โดยช่วงเวลาที่นักเทรดให้ความสำคัญจะแบ่งออกเป็น 4 session จากสี่ประเทศ ซึ่งถือเป็นตัวแทนเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ซิดนีย์ (Sydney), โตเกียว (Tokyo), ลอนดอน (London) และนิวยอร์ก (New York)

เวลาไทย 🇹🇭

SydneyTokyoLondonNew York
เปิด04:0007:0014:0019:00
ปิด13:0016:0023:0004:00

เวลาท้องถิ่น

SydneyTokyoLondonNew York
เปิด07:0009:0008:0008:00
ปิด16:0018:0017:0017:00

ตลาด Forex เปิดวันจันทร์ 04.00 น. ถึง วันเสาร์ 03.59 น.

Daylight Savings Time

นอกจากช่วงเวลาเปิดปิดปกติที่เราคุ้นเคยกันดี ยังมีจุดที่นักเทรดควรระวังและวางแผนกันให้ดี นั่นก็คือช่วงเวลาออมแสง หรือ Daylight Saving Time ที่ในบางประเทศจะมีการปรับเปลี่ยนเวลาตามการขึ้น-ลง ของดวงอาทิตย์ เป็นผลจากฤดูกาลต่างๆ ซึ่งส่งผลให้เวลาการเปิดปิดของตลาดในประเทศนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไปด้วย

เดือนที่มีการปรับเวลาจะอยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม/พฤศจิกายน และ มีนาคม/เมษายน แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่จากสี่ประเทศหลักที่เราได้กล่าวไป มีเพียงญี่ปุ่นที่ไม่มีการปรับเวลาออมแสง

สำหรับใครที่ยังสับสนอยู่ เราขอแนะนำ Forex Market Hours tool เครื่องมือช่วยแปลงเวลา เอาไปใช้กันก่อนจนกว่าจะจำเวลาเปิดปิดได้ด้วยตัวเอง

ข้อดี vs ข้อเสีย ของ Forex

นักลงทุนมือใหม่เชิญทางนี้ ก่อนจะตัดสินใจเริ่มลงทุนอะไรก็ควรศึกษาข้อมูลกันให้ดี เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง หนึ่งในสิ่งที่ควรรู้นอกจากวิธีการลงทุนแล้ว ก็คือข้อดีและข้อเสียนั่นเอง จะได้รู้ว่าเราเหมาะกับการลงทุนนั้นๆ ไหม

ข้อดี Forex

  1. เก็งกำไรได้สองทาง
    นักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะรู้กันดีว่า การจะทำกำไรกับสินทรัพย์อะไรสักอย่าง เราจะต้องลงทุนซื้อสินทรัพย์นั้นมาก่อนเพื่อทำกำไร แต่สำหรับ Forex คุณเลือกได้เลยว่า อยากซื้อ หรือ อยากขาย เรียกได้ว่านี่คือ จุดเด่นของตลาด Forex เลยทีเดียว
    ถ้าจะให้ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย เช่น
    คาดว่า ราคาทองจะลง เราก็ เลือกขาย ได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อก่อน
    คาดว่า ราคาทองจะขึ้น เราก็ เลือกซื้อ ได้ทันที
  2. ใช้เงินลงทุนต่ำมาก
    การลงทุนในตลาด Forex เพียงมีเงิน 1$ หรือประมาณ 30-35 บาท ก็เริ่มลงทุนได้แล้ว แถมการเปิดบัญชีเทรดกับบางโบรกเกอร์ ยังได้เงินโบนัสไปเทรดได้ฟรีๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็เริ่มต้นลงทุนกับ Forex ได้
  3. สภาพคล่องสูงมาก
    เนื่องจากเงินไม่เหมือนกับสินค้าประเภทอื่น ที่มีความต้องการเฉพาะกลุ่ม แต่เงินเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก จึงมีสภาพคล่องสูงมาก เพียงเปิดออเดอร์ซื้อ-ขาย ในราคาปัจจุบัน ก็ซื้อ-ขายได้ทันที ไม่ต้องรอนานเลย หรือก็คือซื้อง่ายขายคล่อง
  4. ค่าบริการ (Commission) ต่ำ
    ค่าบริการต่ำมาก หรือไม่คิดค่าบริการเลยในบางโบรกเกอร์ เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่จากการหักค่า Spread อยู่แล้ว
  5. เป็นตลาดการเงินใหญ่ที่สุดในโลก
    การซื้อขายต่อวันมากถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจ
  6. ไม่มีผู้ควบคุมตลาด
    ไม่มีใครสามารถเข้ามาควบคุม หรือบังคับทิศทางของราคาตลาดได้ ตัวแปรขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมือง
  7. ทำกำไรได้ง่าย
    ความผันผวนของราคา ส่งผลให้ทำกำไรได้ง่าย สำหรับนักเทรดมืออาชีพ นับเป็นข้อดีที่จะทำกำไรในระยะสั้น
  8. เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ตลาด Forex ในไทย เปิดทำการซื้อขาย ตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์ – ศุกร์ โดยจะเปิดตลาด วันจันทร์ 04.00 น. และปิด วันเสาร์ 04.00 น. ทำให้ Forex เหมาะกับทุกอาชีพ ด้วยเวลาสร้างรายได้ที่มากกว่าการลงทุนแบบอื่น

ข้อเสีย Forex

  1. มีความผันผวนสูง
    ตลาด Forex มีความผันผวนกว่าตลาดหุ้นทั่วไปหลายเท่า การลงทุนมีความเสี่ยงสูง จนบางคนบอกว่า Forex เป็นการพนันเลยทีเดียว แต่ข้อเสียนี้กลับเป็นข้อดีของนักเทรดมืออาชีพที่จะทำกำไรได้หลายเท่าตัวเช่นกัน
  2. ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ
    การเปิดบัญชี ส่วนใหญ่จะต้องทำกับโบรกเกอร์ที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งกฎหมายในไทยไม่รองรับ หากเกิดข้อผิดพลาดจึงทำให้การฟ้องร้องเป็นไปได้ยาก ต้องไปฟ้องร้องไปที่ต่างประเทศเท่านั้น และจุดนี้เองที่มิจฉาชีพนำไปใช้เป็นช่องทางในการแอบอ้างและหลอกลวง
  3. หากไม่บริหารเงินทุน อาจขาดทุนได้
    ทุกการลงทุน เราต้องมีวินัยในการลงทุน รวมถึงความรู้ในสิ่งที่ลงทุน หากไม่เข้าใจ ไม่รู้จักบริหารเงินทุน อาจขาดทุนหมดตัวชั่วข้ามคืน เพราะอย่าลืมว่า ตลาด Forex นั้นใหญ่มาก มูลค่าซื้อขายมากกว่าหุ้นทั่วโลกถึง 27 เท่าเลยทีเดียว
  4. กราฟวิ่งแรงในบางคู่สกุลเงิน และบางวัน
    ในช่วงเวลาที่ตลาดทั้งสองสกุลเงินเปิดทำการพร้อมกัน ราคาจะมีการเคลื่อนไหว หรือแกว่งตัวมากกว่าปกติ
    ตัวอย่างเช่น หากเราสนใจคู่เงิน GBP/USD
    GBP เปิดตลาด 15.00 – 23.00 น.
    USD เปิดตลาด 19.00 – 04.00 น.
    ดังนั้น ช่วงเวลาที่ตลาดทั้งสองสกุลเงินเปิดพร้อมกันคือ 19.00 – 23.00 น. ซึ่งในช่วงเวลานี้จะมีการแกว่งตัวมากกว่าปกตินั่นเอง

FX ย่อมาจากอะไร? มีประวัติความเป็นมาอย่างไร?

FX ย่อมาจากอะไร?

FX เป็นคำเรียกย่อๆ ของ Forex ซึ่งมาจากคำเต็มว่า Foreign Exchange Market

แล้ว Forex คืออะไร?

Forex ก็คือ “ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา” ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง (หยุดเสาร์-อาทิตย์) นับเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพมาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นและสินทรัพย์ประเภทอื่น

หลักการของ Forex จะเป็นการเก็งกำไรในค่าเงินผ่านการซื้อ-ขาย คู่สกุลเงินต่างๆ เช่น EUR/USD, USD/JPY หรือ GBP/USD เป็นต้น


ประวัติความเป็นมาของตลาด Forex

  • การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว แต่สิ่งที่เราจะกล่าวถึงจะไปเริ่มกันที่ ปี 1880 จุดเริ่มต้นของ มาตรฐานทองคำ เป็นการใช้วิธีอ้างอิงทองคำ เพื่อให้เกิดอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ ระหว่างสกุลเงินสองชนิดที่แตกต่างกัน วิธีนี้ช่วยควบคุมค่าเงิน ให้มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
  • ต่อมาในช่วงปลายของปี 1913 เกือบครึ่งของการแลกเปลี่ยนเงินตราโลก ดำเนินการโดยใช้เงินปอนด์
  • ต้นศตวรรษที่ 20 ธนาคารต่างชาติมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการเทรดสูงที่สุด ในปารีส นิวยอร์ก และเบอร์ลิน
  • ปี 1922 กรุงลอนดอน ของอังกฤษ มีบริษัทโบรกเกอร์เกิดใหม่กว่า 40 แห่ง
  • หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1944 เกิดข้อตกลง Bretton Woods ส่งผลให้การอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ซึ่งมีการจำกัดความผันผวนของสกุลเงิน ในช่วง ± 1%
  • ซึ่งต่อมาข้อตกลงนี้ก็ถูกทำให้สิ้นสุดลง ในปี 1973 โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ Richard Nixon การแลกเปลี่ยนจึงค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบลอยตัว (Free-Floating)

Forex ยุคก่อนอินเทอร์เน็ต เทรดกันยังไง?

  • ก่อนเกิดอินเทอร์เน็ต เทรดเดอร์จะต้องวางคำสั่งทางโทรศัพท์ ให้โบรกเกอร์เป็นตัวกลาง ดำเนินการแทนทั้งหมด โดยคำสั่งจะถูกส่งเข้าระบบของบริษัทโบรกเกอร์ แล้วจึงส่งต่อไปยังศูนย์กลางของตลาดหลักทรัพย์อีกทอดหนึ่ง
  • ปี 1994 บริษัทโบรกเกอร์ได้เริ่มให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ทำให้เทรดเดอร์รายย่อยอย่างเราๆ สามารถวางคำสั่งผ่านระบบออนไลน์ ได้ด้วยตัวเอง เพียงไม่กี่คลิก คำสั่งซื้อก็ถูกส่งไปถึงตลาด FX นับเป็นปีแห่งการเติบโตของการเทรดออนไลน์ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความนิยมที่แพร่หลายไปทั่วโลก อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน